credit:http://www.baanlaesuan.com
ในหมู่บ้านฟ้าริมหาด ไม่ไกลจากหาดจอมเทียน พัทยา ท่ามกลางกลุ่มบ้านที่ดูเหมือนบ้านจัดสรรทั่วไป มีบ้านหลังหนึ่งที่แตกต่าง เพราะบนพื้นที่ 75 ตารางวาโอบล้อมด้วยสวนเขียวชอุ่มกว่าครึ่ง แสดงถึงความพิถีพิถันของ Mr. Antony John Herley และคุณประวิทย์ แสนสบาย ผู้เป็นเจ้าของ ได้เป็นอย่างดี
คุณประวิทย์ เล่าถึงสวนแห่งนี้ด้วยสีหน้าที่มีความสุขว่า “เริ่มต้นจัดสวนเมื่อปลายเดือนมกราคม 2554 ผมชอบสวน ชอบต้นไม้ ก่อนหน้านี้เคยอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม มีระเบียงแคบๆแค่ 2 ด้าน ทำอะไรแทบไม่ได้เลย จึงตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ เจ้าของเดิมเป็นชาวฮอลแลนด์ ซึ่งไม่ค่อยได้มาอยู่ บ้านสร้างมาแปดปีแล้ว แต่ไม่ได้จัดสวนเป็นเรื่องเป็นราว แค่ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงานิดๆหน่อยๆ และยังขาดการดูแลด้วย ผมรื้อสนามหญ้าและต้นไม้บางส่วนออก จากนั้นก็เริ่มคิดออกแบบสวนใหม่ ผมจะร่างแบบไว้คร่าวๆว่ามุมไหนเหมาะจะทำอะไร ปลูกอะไร
“พื้นที่เดิมเป็นดินลูกรังจึงต้องปรับดินใหม่ พร้อมหาซื้อต้นไม้มาเพิ่มเติม แล้วจัดให้ดูเป็นระเบียบและดูแลรักษาง่าย นอกจากนี้ผมยังเก็บต้นไม้เดิมของเจ้าของบ้านเก่าไว้บางส่วนด้วย เพราะชาวต่างชาติซึ่งอยู่บ้านข้างๆขอให้ปลูกไว้ เขาอยากเห็น บ้านเขาปลูกไม่ได้ มันไม่โต (หัวเราะ) สวนในบ้านนี้ผมลงมือทำเองร่วมกับเพื่อนชาวต่างชาติอีก 2 คน ก็ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสวนไปเรื่อย เพราะผมเป็นคนเบื่อง่าย คอยย้ายต้นนั้นตรงนี้จนกว่าจะได้มุมที่เห็นว่าลงตัว
“สำหรับไอเดียในการจัดสวนก็ได้มาจากความชอบตั้งแต่สมัยเด็กๆ ผมยังชอบซื้อหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบสวนมาอ่านด้วย อย่างนิตยสารบ้านและสวนก็ช่วยได้มาก ผมติดตามมาตั้งแต่ซื้อบ้านครั้งแรก เป็นแฟนประจำมานานกว่าหกปีแล้ว นอกจากนี้เวลาไปตามโรงแรมหรือรีสอร์ต เห็นมุมไหนสวยๆ ไอเดียไหนเข้าท่าก็จำมาใช้ ผมซื้อบ้านและย้ายบ้านมาเรื่อย อาศัยลองผิดลองถูกเอง ค่อยๆเรียนรู้สะสมประสบการณ์ ผมไปร้านขายต้นไม้บ่อยๆ ชอบคุยกับคนขาย ร้านขายต้นไม้ในพัทยาผมก็รู้จักทุกร้าน วันเสาร์อาทิตย์ใกล้ๆเมืองโบราณจะมีตลาดต้นไม้ ทุกสัปดาห์ผมต้องแวะไปดูไปอุดหนุนสักนิดก่อนไปทำงาน ไปซื้ออาหารปลา ซื้อปุ๋ย ซื้อต้นไม้ แต่ต้นไม้บางต้นก็เข้าไปซื้อที่จตุจักร ผมจะเลือกเข้าไปทำธุระที่กรุงเทพฯหรือเลือกวันพักผ่อนให้ตรงกับวันพุธ ผมยอมเสียเงินกับเรื่องต้นไม้ บางทีเพื่อนยังแซวว่าเวลาไปตลาดต้นไม้ให้เอาเงินเก็บไว้ที่บ้าน เพราะถ้าเอาไปผมก็ต้องซื้อทุกครั้ง เห็นต้นไม้สวยๆแล้วก็อดไม่ได้ครับ (หัวเราะ)
“ก่อนเริ่มปลูกต้นไม้ ผมจะดูทิศทางแสงแดดและตำแหน่งต่างๆของบ้าน รวมถึงนิสัยของต้นไม้
ทุกวันนี้ผมตื่นมาหกโมงเช้าก็ลงมาอยู่ที่สวนเลย ยังไม่ได้ทำธุระส่วนตัวอะไร ใช้เวลาดูแลสวนประมาณสองสามชั่วโมง เลิกงานกลับมาก็มาดูแลสวนต่อ เก็บพวกเศษใบไม้ เก็บใบเหี่ยวใบไม่สวยออก ช่วงไหนอากาศร้อนมากผมก็รดน้ำวันละสองรอบ การให้ปุ๋ยก็แล้วแต่ เดือนละครั้งสองครั้ง ช่วงไหนโตดีก็งดปุ๋ย ช่วงไหนดูไม่ค่อยโตก็ให้ปุ๋ยเพิ่ม
“โดยส่วนตัวผมชอบต้นไม้หลากหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่เป็นไม้เมืองร้อน ผมว่าเหมาะกับอากาศบ้านเรา ปลูกแล้วเติบโตงอกงามได้ดี ผมชอบสวนเมืองร้อนและโมเดิร์น ดูเรียบง่าย ไม่รกรุงรัง ดูแลง่าย ส่วนอนาคตของสวนก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าผมไปเจอต้นไม้ใหม่ที่สวยกว่าและนำมาปลูกแทนได้ ผมก็อาจย้ายปลูกใหม่ แต่ต้นไหนที่ปลูกเป็นแนวหลักๆก็จะปล่อยไว้ เปลี่ยนเฉพาะไม้ประดับเล็กๆ และไม้กระถางต่างๆ
“บ้านหลังนี้ถือเป็นหลังที่สี่ของผมแล้ว ผมจัดสวนเองทุกหลัง จัดสวนเสร็จก็ปล่อยให้เช่า บางทีก็ไปช่วยจัดสวนให้บ้านญาติพี่น้องเป็นงานอดิเรก คิดวางแผนไว้ด้วยครับว่าอาจรับจ้างดูแลต้นไม้ เริ่มจากในละแวกบ้านก่อน เพื่อนบ้านที่เห็นสวนเราเขาก็ให้ความไว้วางใจ ผมว่าการได้ทำในสิ่งที่รักถือเป็นงานอดิเรกที่ทำแล้วมีความสุขที่สุดครับ”
คุณประวิทย์ เล่าถึงสวนแห่งนี้ด้วยสีหน้าที่มีความสุขว่า “เริ่มต้นจัดสวนเมื่อปลายเดือนมกราคม 2554 ผมชอบสวน ชอบต้นไม้ ก่อนหน้านี้เคยอาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียม มีระเบียงแคบๆแค่ 2 ด้าน ทำอะไรแทบไม่ได้เลย จึงตัดสินใจซื้อบ้านหลังนี้ เจ้าของเดิมเป็นชาวฮอลแลนด์ ซึ่งไม่ค่อยได้มาอยู่ บ้านสร้างมาแปดปีแล้ว แต่ไม่ได้จัดสวนเป็นเรื่องเป็นราว แค่ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงานิดๆหน่อยๆ และยังขาดการดูแลด้วย ผมรื้อสนามหญ้าและต้นไม้บางส่วนออก จากนั้นก็เริ่มคิดออกแบบสวนใหม่ ผมจะร่างแบบไว้คร่าวๆว่ามุมไหนเหมาะจะทำอะไร ปลูกอะไร
“พื้นที่เดิมเป็นดินลูกรังจึงต้องปรับดินใหม่ พร้อมหาซื้อต้นไม้มาเพิ่มเติม แล้วจัดให้ดูเป็นระเบียบและดูแลรักษาง่าย นอกจากนี้ผมยังเก็บต้นไม้เดิมของเจ้าของบ้านเก่าไว้บางส่วนด้วย เพราะชาวต่างชาติซึ่งอยู่บ้านข้างๆขอให้ปลูกไว้ เขาอยากเห็น บ้านเขาปลูกไม่ได้ มันไม่โต (หัวเราะ) สวนในบ้านนี้ผมลงมือทำเองร่วมกับเพื่อนชาวต่างชาติอีก 2 คน ก็ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสวนไปเรื่อย เพราะผมเป็นคนเบื่อง่าย คอยย้ายต้นนั้นตรงนี้จนกว่าจะได้มุมที่เห็นว่าลงตัว
“สำหรับไอเดียในการจัดสวนก็ได้มาจากความชอบตั้งแต่สมัยเด็กๆ ผมยังชอบซื้อหนังสือเกี่ยวกับการออกแบบสวนมาอ่านด้วย อย่างนิตยสารบ้านและสวนก็ช่วยได้มาก ผมติดตามมาตั้งแต่ซื้อบ้านครั้งแรก เป็นแฟนประจำมานานกว่าหกปีแล้ว นอกจากนี้เวลาไปตามโรงแรมหรือรีสอร์ต เห็นมุมไหนสวยๆ ไอเดียไหนเข้าท่าก็จำมาใช้ ผมซื้อบ้านและย้ายบ้านมาเรื่อย อาศัยลองผิดลองถูกเอง ค่อยๆเรียนรู้สะสมประสบการณ์ ผมไปร้านขายต้นไม้บ่อยๆ ชอบคุยกับคนขาย ร้านขายต้นไม้ในพัทยาผมก็รู้จักทุกร้าน วันเสาร์อาทิตย์ใกล้ๆเมืองโบราณจะมีตลาดต้นไม้ ทุกสัปดาห์ผมต้องแวะไปดูไปอุดหนุนสักนิดก่อนไปทำงาน ไปซื้ออาหารปลา ซื้อปุ๋ย ซื้อต้นไม้ แต่ต้นไม้บางต้นก็เข้าไปซื้อที่จตุจักร ผมจะเลือกเข้าไปทำธุระที่กรุงเทพฯหรือเลือกวันพักผ่อนให้ตรงกับวันพุธ ผมยอมเสียเงินกับเรื่องต้นไม้ บางทีเพื่อนยังแซวว่าเวลาไปตลาดต้นไม้ให้เอาเงินเก็บไว้ที่บ้าน เพราะถ้าเอาไปผมก็ต้องซื้อทุกครั้ง เห็นต้นไม้สวยๆแล้วก็อดไม่ได้ครับ (หัวเราะ)
“ก่อนเริ่มปลูกต้นไม้ ผมจะดูทิศทางแสงแดดและตำแหน่งต่างๆของบ้าน รวมถึงนิสัยของต้นไม้
ทุกวันนี้ผมตื่นมาหกโมงเช้าก็ลงมาอยู่ที่สวนเลย ยังไม่ได้ทำธุระส่วนตัวอะไร ใช้เวลาดูแลสวนประมาณสองสามชั่วโมง เลิกงานกลับมาก็มาดูแลสวนต่อ เก็บพวกเศษใบไม้ เก็บใบเหี่ยวใบไม่สวยออก ช่วงไหนอากาศร้อนมากผมก็รดน้ำวันละสองรอบ การให้ปุ๋ยก็แล้วแต่ เดือนละครั้งสองครั้ง ช่วงไหนโตดีก็งดปุ๋ย ช่วงไหนดูไม่ค่อยโตก็ให้ปุ๋ยเพิ่ม
“โดยส่วนตัวผมชอบต้นไม้หลากหลายชนิด แต่ส่วนใหญ่เป็นไม้เมืองร้อน ผมว่าเหมาะกับอากาศบ้านเรา ปลูกแล้วเติบโตงอกงามได้ดี ผมชอบสวนเมืองร้อนและโมเดิร์น ดูเรียบง่าย ไม่รกรุงรัง ดูแลง่าย ส่วนอนาคตของสวนก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์ ถ้าผมไปเจอต้นไม้ใหม่ที่สวยกว่าและนำมาปลูกแทนได้ ผมก็อาจย้ายปลูกใหม่ แต่ต้นไหนที่ปลูกเป็นแนวหลักๆก็จะปล่อยไว้ เปลี่ยนเฉพาะไม้ประดับเล็กๆ และไม้กระถางต่างๆ
“บ้านหลังนี้ถือเป็นหลังที่สี่ของผมแล้ว ผมจัดสวนเองทุกหลัง จัดสวนเสร็จก็ปล่อยให้เช่า บางทีก็ไปช่วยจัดสวนให้บ้านญาติพี่น้องเป็นงานอดิเรก คิดวางแผนไว้ด้วยครับว่าอาจรับจ้างดูแลต้นไม้ เริ่มจากในละแวกบ้านก่อน เพื่อนบ้านที่เห็นสวนเราเขาก็ให้ความไว้วางใจ ผมว่าการได้ทำในสิ่งที่รักถือเป็นงานอดิเรกที่ทำแล้วมีความสุขที่สุดครับ”